[Preview] Diablo III ตอนที่ 1 แนะนำระบบต่างๆ ในเกม

Diablo III เป็นภาคต่อของเกมมหากาพย์ล่าจ้าวอสูรจา่กค่าย Blizzard ที่ถูกวางแพลนเอาไว้แต่ภาคแรกว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของเนื้อเรื่อง Line นี้ (ถึงจะเป็นภาคสุดท้ายของเนื้อเรื่อง Line นี้แต่ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่าตัวเกมจะยังมีภาคใหม่เพิ่มเติมขึ้นมาอีกโดยแยกเป็นอีกเนื้อเรื่องนึงครับ) โดยภาคนี้ทิ้งช่วงมานานกว่าภาค 2 ถึง 10 กว่าปี ประกาศเปิดตัวโปรเจ็กต์เมื่อวันที่ 28 มิุถุนายน 2008 ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสในงาน Blizzard Worldwide Invitational หรือ WWI08 และกำลังจะวางขายพร้อมกันทั่วโลก ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2012 ที่จะถึงนี้แล้วครับ

ระบบต่างๆ ของเกม

Classes

ตัวละครของ Diablo III มีทั้งหมด 5 อาชีพ โดยแต่ละอาชีพสามารถเลือดเพศได้ด้วยดังนี้ (ในบทความนี้ผมขอแนะนำคร่าวๆ ก่อนนะครับไว้ไปเจาะเรื่องอาชีพกันในตอนต่อไปครับ)

Barbarian
อาชีพเดียวที่เป็นอาชีพเก่าจากภาค 2 และถูกนำกลับมาในภาคนี้ ด้วยความเป็นนักสู้ดิบเถื่อน บ้าระห่ำ พร้อมกับความรุนแรงในการโจมตีศัตรู ที่อัดทีเดียวถึงกับหน้าไหม้
รูปแบบการเล่น ไม่ต่างจาก Barbarian ในภาค 2 เลย เน้นการเข้าประชิดแล้วประเคนยัดสกิลที่รุนแรงใส่ ให้ศัตรูร่วงอย่างรวดเร็ว และยังมีการโจมตีเป็นหมู่ซะส่วนใหญ่ จึงเป็นแนวหน้าที่เหมาะสำหรับเข้าไปตะลุมบอนกับศัตรูได้อย่างดีเลยทีเดียว

Demon Hunter

อีก 1 อาชีพใหม่ที่มีการเพิ่มเข้ามาในภาค 3 เป็นอาชีพที่เน้นการใช้สกิลในการต่อสู้แทบจะตลอดเวลาและสามารถเอาตัวรอดได้ดีในจังหวะคับขัน
รูปแบบการเล่น Demon Hunter จะคล้าย Assassin ผสมกับ Amazon คือมีสกิลการใช้ระเบิด, ลอบสังหาร และใช้อาวุธจำพวกหน้าไม้ แถมเป็นอาชีพเดียวที่มีค่าพลังในการใช้สกิลถึง 2 ชุด ทำให้สาดสกิลใส้ได้แทบจะตลอดเวลา แต่หากเล่นคนเดียวแ้ล้วช่วงแรกออกจะลำบากสักหน่อย เพราะยังไม่สามารถฆ่าศัตรูได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

Monk
อาชีพนักบวชเป็นอีก 1 อาชีพใหม่ที่เน้นการต่อสู้ระยะประชิดเป็นส่วนใหญ่ สามารถต่อสู้ด้วยพลังปราณ โดยมีอาวุธหลักคือกระบองและกำปั้น แต่ก็สามารถใช้อาวุํธประชิดแบบเบาๆ ได้
ตั้งแต่แรกเริ่ม ผมคิดว่า Monk น่าจะมีรูปแบบการเล่นคล้ายกับ Paladin ในภาคที่แล้ว แต่ผมคิดผิด เพราะ Monk นั้นมีรูปแบบการเล่นที่หลากหลายมาก สามารถเข้าปะทะศัตรูได้อย่างรวดเร็ว และยังมีสกิลที่สนับสนุนในการเข้าชนศัตรูเป็นกลุ่มมากมาย แถมยังมีท่าปัดการโจมตีแบบ Projectile รวมไปถึงสามารถบัฟและฮีลให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ด้วย

Witch Doctor
เป็นอาชีพใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ เขาสามารถปลุกมอนสเตอร์ออกมาช่วยสู้ได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ศพเหมือนกับ Necromancer ในภาค 2
รูปแบบการเล่นของ Witch Doctor จะคล้ายกับการนำ Necromancer มาผสมกับ Druid คือสามารถควบคุมสัตว์แห่งความมืด และเหล่าวิญญาณได้ แถมยังมีบางสกิลที่ถูกดึงมาใช้จาก Warlock ใน World of Warcraft เช่น Terrify หรือ Mass Confusion เป็นต้น

Wizard
จอมเวทย์ที่มีสกิลรุนแรง แถมยังสู้แบบประชิดได้ดีไม่แพ้ Monk หรือ Barbarian เลยด้วย (ถ้าไม่โดนอัดร่วงซะก่อนน่ะนะ)
รูปแบบการเล่นของ Wizard แน่นอนว่าต้องเน้นการยิงเวทย์เป็นหลักแบบ Sorcerer ในภาค 2 แน่นอน แต่จะมีความยืดหยุ่นในการเล่นมากขึ้นในการเลือกใช้เวทมนตร์ต่อสู้ รวมไปถึงยังมีความสามารถบางส่วนที่คล้ายกับ Assassin ในภาค 2 อีกด้วย


Skill
ในส่วนระบบสกิลนั้น จากเดิมที่เป็น Skill Tree ให้เพื่อนๆ ได้เลือกอัพกัน พร้อมกับค่า Status ที่ปัจจุบันนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้วเปลี่ยนใหม่เป็นการได้รับสกิลเพิ่มตามระดับเลเวลของตัวละครแทน โดยเมื่อผู้เล่นเลเวลอัพแต่ละครั้ง จะปลดล็อคสกิลต่างๆ และเลเวลของสกิลเองโดยอัตโนมัติ ให้ผู้เล่นได้เลือกนำมาใช้ โดยมีการบังคับปุ่มกดของสกิลในสายนั้นๆ เอาไว้ด้วยซึ่งผู้้เล่นจะมีสกิลที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ 6 สกิล Active และ 3 สกิล Passive เท่านั้น

Skill Rune
ระบบ Rune ในภาคนี้ มีการปรับเปลี่ยนใหม่ไม่เหมือนภาคก่อนๆ โดย Rune ของภาคนี้ จะเป็นการเสริมความสามารถให้กับสกิลต่างๆ ของผู้เล่น เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ตามสถานการณ์

Followers
เป็นระบบใหม่ ที่คล้ายๆ กับการจ้างทหารรับจ้างในภาค 2 แต่จะมีต่างกันอยู่บ้าง โดย Follower จะเป็นผู้ช่วยเราในการลุยดันเจี้ยนต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 อาชีพ ด้วยกัน คือ Templar, Scoundrel และ Enchanter แต่ผู้เล่นสามารถเลือกให้ติดตามไปได้เพียงอาชีพเดียวเท่านั้น แต่สามารถเปลี่ยนตัว Follower ได้หลังจากที่ผ่านเควสต์หรือลุยดันเจี้ยนจบ
นอกจากนี้ Followers จะได้รับค่า Loyalty เมื่อผ่านเควสต์ต่างๆ และทุกๆ 5 เลเวล Followers จะสามารถเลือก 1 ใน 2 สกิล ให้กับ Follower ได้

Credit : http://www.online-station.net/news/preview/1008